Currently set to Index
Currently set to Follow
Thu, Nov 14, 2024

Learn Forex Trading in Thai language

รียนรู้การเทรดฟอเรกซ์ ฟรี


เส้นทางสู้ความสำเร็จในการเทรดฟอเรกซ์ ด้วยการเรียนรู้ง่ายๆจากผู้เชียวชาญ

1.ฟอเรกซ์ คือ อะไร?  ฟอเรกซ์ คือ ตลาดกลางสำหรับการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินคู่ต่างๆ

2. การแลกเปลี่ยนซื้อขาย คือ อะไร?  การแลกเปลี่ยนซื้อขาย คือ การซื้อและการขาย บางสิ่งบางอย่าง อะไรก็ได้ (บางสิ่งที่ดี หรือ พวกสินค้าต่างๆ)

3. การแลกเปลี่ยนซื้อขายของฟอเรกซ์ คืออะไร   การซื้อและการขาย เงินสกุลต่างๆ / การซื้อเงินสกุลหนึ่ง และการขายเงินสกุลหนึ่ง ในช่วงเวลาเดียวกัน ตัวอย่างเช่น เรามีเงิน us dollar อยู่ ถ้าเราต้องการซื้อเงิน EURO เราต้องขายเงิน us dollar ที่เรามีอยู่ เพื่อจะได้เงิน EURO มา

4. การแลกเปลี่ยนซื้อขายของตลาดฟอเรกซ์ คือ อะไร

ตลาด (market) คือ สถานที่สำหรับการซื้อและการขาย อะไรก็ได้หรือบางสิ่งบางอย่าง

ตลาดการแลกเปลี่ยนซื้อขาย  (Forex market) คือ สถานที่สำหรับการซื้อและการขายสกุลเงินต่างๆ นั่นเอง

ตลาด forex จึง เป็นอันดับ 1 ในธุรกิจเกี่ยวกับการเงิน ซึ่งมีการแลกเปลี่ยน ถึง 8 ล้านของล้านล้าน ดอลล่า จึงเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด  ซึ่งในตลาดหุ้น นิวยอร์คมีการซื้อขายเพียง 180 พันล้านดอลล่า เท่านั้น

5. อะไรคือความแตกต่างหลักๆ ระหว่าง การแลกเปลี่ยนซื้อขายทั่วไป กับ ตลาดการแลกเปลี่ยนสกุลเงินของฟอเรกซ์

การแลกเปลี่ยนซื้อขายทั่วไป การแลกเปลี่ยนซื้อขายในตลาดฟอเรกซ์ในโลกออนไลน์
1. คุณจำเป็นต้องจ่ายเงิน 100% สำหรับการซื้อสินค้าที่คุณต้องการ 1. คุณเพียงจ่ายเงินเพียง 1% หรือจ่ายเงินขั้นต่ำ สำหรับซื้อสินค้า ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเต็ม
2. หลังจากจ่ายเงินแล้ว คุณจึงจะได้รับสินค้าที่ต้องการมาอยู่ในมือคุณ 2. หลังจากซื้อแล้ว สินค้าคุณจะอยู่ในบัญชีออนไลน์ของคุณทันที
3. สามารถสร้างกำไรได้น้อยตามจำนวนเงินลงทุนที่น้อย เช่น คุณซื้อทอง 100$ ซึ่งต้องจ่ายเงินเต็ม หลังจากนั้น 2 เดือน หาก ทองราคาขึ้นเป็น 110$ เมื่อนั้น คุณขายไปคุณจะได้รับกำไร เพียงแค่ 10$ จากเงินลงทุน 100$ 3. คุณสามารถ สร้างกำไรได้มากๆ  ด้วยเงินลงทุนที่ต่ำ เช่น คุณต้องการซื้อทอง 100$ คุณจ่ายเพียง 1$ หรือต่ำกว่า โดยการซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนออนไลน์ หลังจากผ่านไป 2 เดือน  ถ้าทองขึ้นเป็น 110$ นั่นคือคุณได้กำไร 10$ ด้วยเงินลงทุนเพียง 1$ เท่านั้น นี่เองคือเหตุที่ว่า ทำไมสามารถทำกำไรด้วยเงินลงทุนที่ต่ำ
4. ใช้เวลานานในการซื้อสินค้าที่คุณต้องการ 4. สามารถซื้อสินค้าได้ทันที  ภายใน 1 วินาที
5. ถ้าราคาสินค้าที่ซื้อมาราคาตก คุณจะเสียเงินลงทุนมาก 5. ถ้าราคาสินค้าที่ซื้อมาราคาตก คุณจะเสียเงินมากสุดเพียง 1% จากเงินลงทุน

จากตารางเปรียบเทียบด้านบน เป็นเหตุผลทำให้เห็นว่า การซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตรา ผู้คนให้ความสนใจมากมายที่จะเทรดการซื้อขายในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก.

6. ความแตกต่างระหว่างตลาดฟอเรกซ์ กับ ตลาดอื่นๆ

ตลาดอื่นๆ ตลาดฟอเรกซ์
1. คุณจะได้รับกำไรจากตลาดหุ้นที่เป็นขาขึ้นเท่านั้น หากตลาดหุ้นตก คุณจะได้แต่ขาดทุนหรือสูญเสียเงินลงทุน หรือจะต้องรอจนกว่าตลาดจะกลับมาเป็นขาขึ้น คุณถึงจะได้กำไร 1. ในตลาดฟอเรกซ์ คุณสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง และตลอดเวลาไม่ว่าจะสถานการณ์ใดๆ
2. ตลาดหุ้นมีจำกัดช่วงกำหนดตลาดเปิด-ปิดในแต่ละวัน เช่น ตลาดหุ้นนิวยอร์ค เปิดทำการตั้งแต่ 9.30น. ถึง 4 โมงเย็นในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ 2. ตลาดฟอเรกซ์ เปิดทำการ 24 ชั่วโมงในวันจันทร์ ถึงวันศุกร์ คุณสามารถเทรดได้ตลอดเวลา
3. มีค่าคอมมิชชั่นสูง 3. มีค่าคอมมิชชั่นต่ำกว่าเมื่อเทียบกับสถาบันการเงินอื่นๆในตลาดหุ้นในโลก
4. ปริมาณการหมุนเวียนซื้อขายน้อย ทำให้การทำกำไรเป็นไปอย่างช้าๆ

การหมุนเวียนต่ำ = การเคลื่อนไหวของตลาดต่ำ = กำไรต่ำ

4. ปริมาณการหมุนเวียนซื้อขายมีมากถึง 8 ล้านของล้านล้าน ต่อวัน

การหมุนเวียนสูง = การเคลื่อนไหวของตลาดสูง = กำไรสูง

5. เครื่องมือและโปรแกรมการซื้อขายค่อนข้างใช้งานยาก ไม่ง่ายในการเรียนรู้และการเทรด 5. เครื่องมือและโปรแกรมใช้งานง่าย สามารถเทรดได้ทั้ง มือถือ เทบเลต หรือคอมพิวเตอร์ โน้ตบุค ต่างๆ

7. ตลาดฟอเรกซ์ เคลื่อนไหวจากอะไรบ้าง?

ปัจจัยที่ทำให้ตลาดฟอเรกซ์ เคลื่อนไหวมีดังนี้

-ธนาคารหลักโลก

-ธนาคารภายในแต่ละประเทศขนาดใหญ่

-ธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลาง

-กองทุนรวมต่างๆ , ธุรกิจการค้าต่างๆ , ธุรกิจค้าปลีกต่างๆ

-นักเทรดหุ้นรายย่อยทั่วๆไป

8. ทำไมตลาดฟอเรกซ์ จึงสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
ตลาดฟอเรกซ์ เป็นการรวมกันเพื่อเทียบระหว่าง 2 สกุลเงิน เราเรียกว่า คู่สกุลเงิน

ตัวอย่างเช่น EUR/USD, USD/JPY, USD/INR

ทำไมฟอเรกซ์จึงมี 2 สกุลเงินเทียบกัน

การเทรดฟอเรกซ์ = การซื้อและการขาย ค่าเงิน (แลกเปลี่ยนเงินตรา)

เมื่อมีการแลกเปลี่ยนกันหนึ่งครั้ง หมายถึง เราจะมีการขายเงิน  1 สกุลเงิน (USD) และเราจะมีการซื้ออีกสกุลเงินหนึ่ง (EUR) ในเวลาเดียวกัน

นี่คือเหตุผล ว่าทำไม ตลาดฟอเรกซ์ จึงมี 2 สกุลเงินรวมกัน

9. ชื่อทางเทคนิคของ คู่สกุลเงิน
ตัวอย่างที่  1 EUR/USD

EUR = สกุลเงินแรก = สกุลเงินตั้งต้น

USD = สกุลเงินที่สอง = สกุลเงินที่อ้างอิง

ตัวอย่างที่  2 USD/INR

USD = สกุลเงินแรก = สกุลเงินตั้งต้น

INR = สกุลเงินที่สอง = สกุลเงินที่อ้างอิง

10. ทำไมตลาดฟอเรกซ์ถึงเคลื่อนที่ขึ้นและเคลื่อนที่ลง
ดูจากตัวอย่างอธิบายดังนี้

ถ้ามีจำนวนผู้ซื้อสินค้าตัวนึงจำนวนมาก (เช่นทองคำ)

มีผู้ซื้อทองคำมาก => มีความต้องการทองคำมาก=> ราคาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (ตลาดทองก็จะเคลื่อนไหวทิศทางขาขึ้น)

ซึ่งในตลาดฟอเรกซ์ จะเป็นการเทียบกัน 2 คู่สกุลเงิน ตัวอย่าง EUR/USD

ถ้าสกุลเงินที่ 1 (EUR) มีความแข็งค่า (มีผู้ซื้อ EUR เยอะ) เมื่อนั้นตลาด EUR/USD ก็จะเคลื่อนไหวทิศทางขาขึ้น

แต่ถ้าหากสกุลเงินที่สอง (USD) มีความแข็งค่า (มีผู้ซื้อ USD เยอะ) เมื่อนั้นตลาด EUR/USD ก็จะเคลื่อนไหวในทิศทางขาลง

11. การเปิดออเดอร์สำหรับการเทรดฟอเรกซ์มีด้วยกัน 2 คำสั่ง คือ Buy order และ Sell order

Buy order หมายถึง การเปิดคำสั่งซื้อสกุลเงินที่ 1

Sell order หมายถึง การเปิดคำสั่งซื้อสกุลเงินที่ 2

12. การเทรดทำกำไรในตลาดฟอเรกซ์
ถ้าสกุลเงินที่ 1 ค่าเงินแข็งค่า => กราฟจะเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น => เราต้องเปิดคำสั่ง Buy order

ถ้าสกุลเงินที่ 2 ค่าเงินแข็งค่า => เราต้องเปิดคำสั่ง Sell order

13. คำสั่งสำหรับการเปิดออเดอร์ล่วงหน้า
การเปิดออเดอร์ล่วงหน้า หมายถึง การที่เราคาดการณ์ล่วงหน้าในการเปิดคำสั่ง Buy order หรือ Sell order ซึ่งมีด้วยกัน 4 คำสั่ง ดังนี้

  1. Buy limit หมายถึง การเปิดคำสั่งซื้อล่วงหน้า สกุลเงินที่ 1 ใต้ราคาตลาดปัจจุบัน
  2. Sell limit หมายถึง การเปิดคำสั่งซื้อล่วงหน้า สกุลเงินที่ 2 บนราคาตลาดปัจจุบัน
  3. Buy stop หมายถึง การเปิดคำสั่งซื้อล่วงหน้า สกุลเงินที่ 1 บนราคาตลาดปัจจุบัน
  4. Sell stop หมายถึง การเปิดคำสั่งซื่อล่วงหน้า สกุลเงินที่ 2 ใต้ราคาตลาดปัจจุบัน

14. การตั้งค่าตัดการขาดทุน และ การตั้งค่าทำกำไรล่วงหน้า (Stop loss and Take profit)

Stop loss หมายถึง ถ้าเราต้องการกำหนดจำกัดการขาดทุนอัตโนมัติ  เมื่อนั้นให้เราตั้งค่า Stop loss ล่วงหน้าไว้ (SL)

Take profit หมายถึง ถ้าเราต้องการกำหนดจำกัดการทำกำไรอัตโนมัติ เมื่อนั้นให้เราตั้งค่า take profit ล่วงหน้าไว้ (tp)

15. ศัพท์เทคนิค ในตลาดฟอเรกซ์
Bid Price หมายถึง Selling price

Ask Price หมายถึง Buying price

Spread หมายถึง ค่าความแตกต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย

Leverage เป็น option หนึ่งสำหรับนักเทรดในการซื้อค่าเงินได้มากขึ้น หรือจะมองอีกนัยว่า สามารถซื้อค่าเงินโดยใช้เงินลงทุนน้อยลง

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากเรามี leverage 1:100  หมายถึง เราสามารถซื้อเงิน 100$ โดยใช้เงินลงทุนที่เรามีเพียง 1$ เท่านั้น

 

หากท่านใดสนใจที่จะประสบความสำเร็จในตลาดฟอเรกซ์ โปรดติดต่อโดยตรงทางโทรศัทพ์ หรือ ผ่านทาง email หรือ skype .

ข้อมูลติดต่อ

Email : support@forexgdp.com

Skype : Forexgdp

 

85% Offer for Signals

X